2 มีนาคม 2554

Hydralazine Toxicity/Poisoning in SLE

Hydralazine Toxicity/Poisoning  in SLE



นำมาจากข้อมูลการตอบคำถามทางด้านยาของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งนะคะ

คำถาม
     ผู้ป่วยเด็กเป็น SLE สามารถได้รับยา Hydralazine ได้หรือไม่  ?


คำตอบ

การใช้ยา Hydralazine อาจเหนี่ยวนำให้เกิด SLE ในผู้ป่วยได้ 

แนะนำให้หยุดยาในกรณีที่ให้ผล + ANA ( Antinuclear antibody )  

หรือผู้ป่วยที่กำจัดยาล่าช้า หรือ ranal function ลดลง และได้ขนาดยามากกว่า 200 mg/day   

สำหรับผู้ป่วยรายนี้เป็น SLE อยู่แล้วแต่มา admit ด้วยอาการอื่น และผลตรวจ ANA เป็น negative และผู้ป่วยได้รับยา Hydralazine มานานแล้ว

ดังนั้น จึงไม่ได้เป็นข้อห้ามใช้ของผู้ป่วยรายนี้ และการใช้ยาลดความดัน hydralazine ก็เป็นตัวเลือกในผู้ป่วยไตวาย            

แหล่งข้อมูลอ้างอิงในการตอบคำถาม

1.AHFS Drugs Information 2004 , p. 1667     
2.Drug Information Handbook , 11 edition      
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------     

 Hydarlazine 

(ข้อมูลจากyaandyou.net)

ชื่อสามัญ :  Hydralazine hydrochloride

ชื่อการค้า :  Hydralazine dragees

รูปแบบยา :  ยาเม็ด

 

ยานี้ใช้สำหรับ 
# ยานี้ใช้เพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง และภาวะหัวใจวาย

วิธีใช้ยา :

  # ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ดใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปรับประทานวันละ 2-4 ครั้ง หรือให้ใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร

  # รับประทานยานี้พร้อมอาหาร และควรรับประทานยาให้ตรงเวลาทุกครั้ง

  # ควรรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำในระหว่างที่รับประทานยานี้อยู่

  # ห้ามหยุดใช้ยาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน

  # การ รับประทานยานี้อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงซึมได้ ดังนั้นไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล และควรเปลี่ยนท่าทางอย่างช้าๆ

  # หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างที่รับประทานยานี้อยู่

  # ไม่ควรซื้อยาบรรเทาอาการไอหรือหวัด ยาบรรเทาอาการเจ็บปวด หรือยาบรรเทาอาการเจ็บปวดศีรษะ มารับประทานโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน



สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ

# มีประวัติแพ้ยา hydralazine, aspirin หรือแพ้ยาอื่นๆ หรือสีผสมอาหาร (tartrazine)

# ยา อื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร ที่ท่านใช้อยู่ในขณะนี้หรือกำลังจะใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น indomethacin)

# มีหรือเคยมีโรคหรือสภาวะต่างๆ ดังนี้ การทำงานของไตผิดปกติ เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจรูห์มาติก ภาวะหัวใจวาย

# ตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร

# หากต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำฟัน ต้องแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบก่อนทำการรักษา 


ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา

# โดย ทั่วไปถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา

1) อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที

    * ปวด กล้ามเนื้อ เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นแรงหรือเต้นไม่เป็นจังหวะ มีไข้ หนาวสั่น หรือ เจ็บคอ ชาบริเวณมือหรือเท้า หายใจลำบาก ผื่นคัน รอยแดง หรือแผลพุพองบริเวณผิวหนัง ข้อบวม แข็ง ปวดข้อ น้ำหนักเพิ่มเร็วผิดปกติ ขา หรือเท้าบวม ต่อมน้ำเหลืองโต เหนื่อย อ่อนเพลียผิดปกติ เป็นลม หมดสติ

2) อาการอันไม่พึงประสงค์อื่นที่อาจเกิดระหว่างใช้ยา หากเป็นต่อเนื่อง หรือ รบกวนชีวิตประจำวัน ให้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบ

    * ปวดศีรษะ ท้องเสีย หรือท้องผูก อาเจียน เบื่ออาหาร

การเก็บรักษายา :


# เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก

# เก็บยานี้ในภาชนะที่ป้องกันแสงได้ เช่น ขวดหรือซองสีชา

# เก็บ ยานี้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ให้อยู่ในที่ร้อนมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น

# ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ